Tuesday, March 6, 2007

**เพิ่มเติม...(โปสเตอร์พาราดอกซ์)



**เพิ่มเติม...(อัลบัมพาราดอกซ์)

1. อัลบัม paradox in paradise
2. อัลบัม paradox -x
3. อัลบัม on the beach
4. อัลบัม Hit me
5. อัลบัม On the rainbow




แบบเสนอโครงการพิเศษฯ

แบบเสนอโครงการพิเศษฯ

แบบเสนอโครงการพิเศษออกแบบประยุกต์ศิลป์
เรื่อง โครงการออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ โปสเตอร์วงดนตรี “Paradox”
ผู้เสนอโครงการ นาย กรฤทธิ์ ทัศมากร รหัสประจำตัว 47119177
นักศึกษาภาคปกติ ศศ.บ.25(4)/9 ศิลปกรรม(ออกแบบประยุกต์ศิลป์) มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม
จำนวนหน่วยกิต 3 หน่วยกิตอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ อาจารย์ จารุณี เนตรบุตร

ความสำคัญและความเป็นมาของโครงการ

ความสำคัญและความเป็นมาของโครงการ
คำว่า ประชาสัมพันธ์ ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Public Relations
Public
หมายถึง ประชา กลุ่มบุคคล หรือประชาชน ซึ่งมีลักษณะ 3 ประการ คือ
1. พบกับปัญหาอันหนึ่ง
2. มีความเห็นเกี่ยวกับการจัดการ กับปัญหานั้นแตกต่างกัน
3. ได้มีการอภิปรายปัญหานั้น มติของกลุ่ม เรียกว่า ประชามติ
Relations
หมายถึง สัมพันธ์ หรือความเกี่ยวข้องผูกพันแบบ 2 ฝ่าย
คำว่า การประชาสัมพันธ์ (Public Relations) เป็นคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากในปัจจุบัน ทั้งตามหน่วยงาน องค์การ สถาบันต่างๆ และในหมู่สาธารณชนทั่วไปที่เป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะงานประชาสัมพันธ์กำลังได้รับความสนใจและยอมรับจากประชาชนทั่วไปในฐานะที่การประชาสัมพันธ์เป็นเสริมสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างหน่วยงานสถาบันกับกลุ่มประชาชนที่เกี่ยวข้อง กล่าวโดยสรุป “ การประชาสัมพันธ์ คือ การเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดี ระหว่างองค์กรหรือสถาบันกับกลุ่มประชาชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหวังผลในความร่วมมือและสนับสนุนจากประชาชนนั่นเอง”

ความหมายของสื่อประชาสัมพันธ์

ความหมายของสื่อประชาสัมพันธ์ คือ หนทางหรือวิถีทางในการนำข่าวสารที่ต้องการประชาสัมพันธ์จากผู้ส่งไปสู่ผู้รับ ในปัจจุบันสื่อในการประชาสัมพันธ์มีมากมายและหลากหลาย อันเป็นผลเนื่องมาจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของโลก อย่างไรก็ตามสามารถแบ่งสื่อประชาสัมพันธ์โดยพิจารณาตามลักษณะของสื่อ ได้เป็น 5 ประเภทคือ

สื่อบุคคล
หมายถึงตัวบุคคลที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ สู่บุคคลอื่น สื่อบุคคลจัดได้ว่าเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพสูงในการประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโน้มน้าวจิตใจ เนื่องจากติดต่อกับผู้รับสารโดยตรง ส่วนใหญ่อาศัยการพูดในลักษณะต่างๆ เช่น การสนทนาพบปะพูดคุย การประชุม การสอน การให้สัมภาษณ์ การโต้วาที การอภิปราย การปาฐกถา และการพูดในโอกาสพิเศษ ต่างๆ แต่สื่อบุคคลก็มีข้อจำกัดคือ ในกรณีที่เนื้อหาเป็นเรื่องซับซ้อน การใช้คำพูดอย่างเดียวอาจไม่สามารถสร้างความเข้าใจได้ทันที และเป็นสื่อที่ไม่ถาวร ยากแก่การตรวจสอบและอ้างอิง นอกจากจะมีผู้บันทึกคำพูดนั้นๆ ไว้เป็นลายลักษณ์อักษรหรือบันทึกเสียงเอาไว้

สื่อมวลชน
จากข้อจำกัดของสื่อบุคคลที่ไม่สามารถใช้เป็นสื่อกลางถ่ายทอดข่าวสารเพื่อการประชาสัมพันธ์สู่คนจำนวนมากพร้อมกันในเวลาเดียวกันอย่างรวดเร็ว มนุษย์จึงได้พัฒนาเทคโนโลยี่การสื่อสาร และเกิดเป็นสื่อมวลชนเพื่อมารับใช้ภารกิจดังกล่าว สื่อมวลชนอาจแบ่งประเภทตามคุณลักษณะของสื่อได้เป็น 5 ประเภท คือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ ทั้งนี้ สื่อหนังสือพิมพ์และนิตยสารมีความคงทนถาวร สามารถนำข่าวสารมาอ่านใหม่ได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่มีข้อจำกัดสำหรับบุคคลที่ตาบอดหรืออ่านหนังสือไม่ออกส่วนสื่อวิทยุกระจายเสียงเป็นสื่อที่ส่งไปได้ไกลเพราะใช้คลื่นวิทยุ ไม่มีข้อจำกัดด้านการขนส่งเหมือนหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร และสามารถรับฟังในขณะที่ทำงานอย่างอื่นไปด้วยได้ แต่มีข้อจำกัดคือ ผู้ฟังไม่สามารถย้อนกลับมาฟังได้ใหม่อีก ดังนั้นหากมิได้ตั้งใจฟังในบางครั้งก็ทำให้ได้ข่าวสารที่ไม่สมบูรณ์ สื่อวิทยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ จัดเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารมากที่สุด เนื่องจากสามารถเห็นภาพเคลื่อนไหวและได้ยินเสียง ทำให้การรับรู้เป็นไปอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพยิ่ง แต่มีข้อจำกัดคือต้องใช้ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้

สื่อสิ่งพิมพ์ เป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ที่หน่วยงานเป็นผู้ผลิตและเผยแพร่ไปสู่กลุ่มเป้าหมาย ด้วยวัตถุประสงค์ในการผลิตและรูปแบบของสิ่งพิมพ์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์ที่ไม่ได้เย็บเล่ม เช่น แผ่นปลิว แผ่นพับ โปสเตอร์ จดหมายข่าว เป็นต้น หรือที่เย็บเป็นเล่ม เช่น วารสาร เอกสารเผยแพร่ หนังสือในโอกาสพิเศษ รายงานประจำปี เป็นต้น ปัจจุบันความนิยมในการใช้สื่อประเภทสิ่งพิมพ์เพื่อการประชาสัมพันธ์นี้มีอยู่มากและมีรูปแบบที่หลากหลายออกไปอีกมากมาย เช่นในรูปปฏิทิน รูปลอก สมุดบันทึก ซึ่งล้วนแต่เป็นสื่อที่เข้าถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีอายุการใช้งานนาน แต่มีข้อจำกัดในเรื่องการนำเสนอเนื้อหาซึ่งต้องให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่นแผ่นพับที่เขียนด้วยภาษาวิชาการ ถ้าส่งไปให้ประชาชนในชนบท อาจจะไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาที่ต้องการประชาสัมพันธ์ได้เลย

ความหมายของสื่อประชาสัมพันธ์ (ต่อ)

สื่อโสตทัศน์
เป็นสื่อที่ผู้รับสามารถรับได้ทั้งภาพ และหรือเสียง โดยปกติสื่อโสตทัศน์แบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นสื่อวัสดุ และส่วนที่เป็นสื่ออุปกรณ์ โดยสื่อวัสดุอาจจะสามารถใช้ได้ด้วยตัวเองโดยตรง เช่น ภาพวาด แบบจำลอง หรือของตัวอย่าง หรืออาจต้องนำไปใช้ร่วมกับสื่ออุปกรณ์ เช่นเทปบันทึกเสียง เทปวีดีทัศน์ ฟิล์มภาพยนต์ แผ่นดิสเก็ต แผ่นซีดีรอม เป็นต้น ส่วนที่เป็นสื่ออุปกรณ์ได้แก่ เครื่องเล่นเทปบันทึกเสียง เครื่องเล่นวีดีทัศน์ เครื่องฉายภาพยนต์ และเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยภาพรวมแล้ว สื่อโสตทัศน์มีข้อดีคือมีความน่าสนใจ เป็นสื่อที่คงทนถาวร นำมาใช้ได้บ่อยครั้ง และสามารถคัดลอกเพื่อนำไปใช้ที่อื่นได้ง่าย แต่มีข้อจำกัดคือต้องใช้อุปกรณ์ซึ่งบางประเภทมีราคาแพง และต้องมีความรู้ในการใช้ และจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ เป็นแหล่งพลังงาน
ในปัจจุบันนี้ คอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีอิทธิพลอย่างมากในการติดต่อสื่อสารและในงานประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์โดยใช้ สื่อผสม (Multi-media) ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เพราะเป็นสื่อที่สามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดีเนื่องจากให้ทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ที่สมจริงเป็นธรรมชาติ และผู้รับยังสามารถมีส่วนร่วมและตอบสนองต่อสื่อดังกล่าวได้ ส่วนข้อจำกัดคือมีความยุ่งยากในการจัดเตรียมอุปกรณ์ ผู้รับต้องมีความรู้ในการใช้คอมพิวเตอร์พอสมควร และต้องใช้ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงาน
นอกจากนี้ ในยุคที่โลกไร้พรมแดน การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (Internet) ยิ่งทวีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ และจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพลโลกในอนาคตอันใกล้นี้ โดยอินเตอร์เน็ตมีข้อดีคือสามารถเข้าถึงประชาชนทั่วทุกมุมโลกได้อย่างรวดเร็ว และเป็นการสื่อสารสองทางที่ผู้รับสามารถโต้ตอบเพื่อซักถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือข้อมูลที่ไม่เข้าใจได้โดยตรงผ่านทางระบบจดหมายอิเลคโทรนิค (E-mail)

สื่อกิจกรรม ปัจจุบันสื่อนี้มีความหมายขยายขอบเขตกว้างขวางไปถึงกิจกรรมที่สามารถสื่อความรู้สึกนึกคิด ความรู้ อารมณ์ และเรื่องราวข่าวสารไปสู่กลุ่มเป้าหมายได้ สื่อประเภทกิจกรรมมีได้มากมายหลายรูปแบบ เช่น การจัดประชุม สัมมนา ฝึกอบรม การแถลงข่าว การสาธิต การจัดริ้วขบวน การจัดนิทรรศการ การจัดแข่งขันกีฬา การจัดแสดง การจัดกิจกรรมทางการศึกษา การจัดกิจกรรมเสริมอาชีพ การจัดกิจกรรมการกุศล เป็นต้น

ศาสตร์และศิลป์ของการประชาสัมพันธ์

ศาสตร์และศิลป์ของการประชาสัมพันธ์
การประชาสัมพันธ์อาจพิจารณาได้ว่าเป็นทั้งศาสตร์และศิลปะไปพร้อมๆกัน ในตัวเอง โดยสามารถอธิบายความละเอียด ได้ดังนี้
การประชาสัมพันธ์ที่เป็นศาสตร์
ศาสตร์ในที่นี้หมายถึงวิทยาการ ความรู้ ความเชื่อถือที่กำหนดไว้เป็นระบบระเบียบที่พึงเชื่อถือได้ และสามารถศึกษาค้นคว้าหาความจริงได้อย่างมีระเบียบแบบแผนและมีระบบ วิชาการประชาสัมพันธ์ เป็นวิชาที่มีระเบียบแบบแผน มีเหตุมีผลและอาจศึกษาเรียนรู้ได้จากตำหรับตำราต่างๆ เป็นการศึกษาค้นคว้าหาหลักและทฤษฎีที่น่าเชื่อถือได้ไว้ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ มีการศึกษาค้นคว้าถึงกระบวนการในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ของมนุษย์ เพื่ออธิบายและวิเคราะห์พฤติกรรมของมนุษย์ที่มีปฏิกริยาสัมพันธ์ต่อกันในสังคม รวมทั้งการศึกษาวิจัยถึงประชามติ และความสัมพันธ์กันระหว่างกลุ่มบุคคลกับองค์กรสถาบันที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้สามารถศึกษา เรียนรู้วิธีการ และถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้อื่นได้ ฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่า วิชาการประชาสัมพันธ์อยู่ในขอบเขตของศาสตร์ทางด้านสังคมวิทยา

การประชาสัมพันธ์ที่เป็นศิลปะ

การประชาสัมพันธ์ที่เป็นศิลปะ
การประชาสัมพันธ์มีลักษณะการดำเนินงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ รวมทั้งประสบการณ์และทักษะของแต่ละบุคคล ทั้งยังต้องประกอบด้วยเทคนิคการประชาสัมพันธ์บางอย่างที่เป็นความสามารถเฉพาะตัว เช่น ความสามารถและทักษะในการสื่อสาร ซึ่งถ่ายทอดและลอกเลียนแบบกันได้ยาก ทั้งนี้เนื่องจากความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน เทคนิคอย่างหนึ่งที่นักประชาสัมพันธ์คนหนึ่งนำไปใช้แล้วประสบผลสำเร็จ หากนักประชาสัมพันธ์อีกผู้หนึ่งนำไปใช้อาจไม่ได้ผลและประสบความล้มเหลวก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถเฉพาะตัว ความเหมาะสมของสถานการณ์ สภาพแวดล้อม เวลา และสถานที่ เป็นต้น
โดยที่การประชาสัมพันธ์เป็นการนำเอาหลักการ ความรู้ที่ได้ศึกษามา ไปประยุกต์ใช้ จึงมีลักษณะเป็นศิลปะ การดำเนินงานประชาสัมพันธ์จะยึดถือกฎเกณฑ์ หรือระเบียบแบบแผนที่ตายตัวไม่ได้ แต่จะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และวิธีการให้สอดคล้องเหมาะสมกับเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนั้น ทั้งนี้ ศิลปะของการประชาสัมพันธ์จะต้องใช้ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวเป็นหลัก ดังนั้นคุณสมบัติส่วนตัวของผู้ทำงานประชาสัมพันธ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวของงานประชาสัมพันธ์นั้นๆ

จากความสำคัญและความหมายดังกล่าวเบื้องต้น ผู้ศึกษาได้สนใจและตระหนักถึงรูปแบบของสื่อประชาสัมพันธ์ในประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ที่ยังคงต้องการแนวคิดในการออกแบบที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มความหน้าสนใจให้แก่สิ่งที่เราประชาสัมพันธ์ดังนั้นจึงกลายเป็นมูลเหตุในการศึกษาครั้งนี้ โดยได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากรูปแบบของกระบวนการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ พบว่า โปสเตอร์ เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมในด้านสื่อประชาสัมพันธ์
ดังนั้นการออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ (โปสเตอร์) จึงเป็นเหตุของการศึกษาการออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์โปสเตอร์วงดนตรี วงParadox ในครั้งนี้

ประวัติความเป็นมาของวง Paradox

ประวัติความเป็นมาของวง Paradox
เริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิที่ห้องคอมพิวเตอร์ของคณะ ในชั่วโมงคอมฯ ต้ากับสองซึ่งขณะนั้นเรียนปี1อยู่ด้วยกันที่ครุศิลป์ จุฬาฯ ต้าเกิดความคิดที่จะตั้งวงดนตรี เอาไว้เล่นตามงานต่างๆของคณะ พอดีเห็นสองกำลังนั่งฟังซาวด์เบาท์ ดูน่าจะสนใจดนตรี จึงเริ่มคุยกัน ซึ่งสองในตอนนั้นก็เพิ่งเล่นเบสได้ไม่นาน แต่ก็สนใจจะร่วมด้วย ดังนั้นทั้งสองคนก็เลยเริ่มมองหาสมาชิก เพื่อมาเสริมตำแหน่งให้ครบวง ช่วงแรกเวลาไปห้องซ้อมก็มักจะซ้อมดนตรีกันเพียงแค่2คน โดยต้าเล่น สองร้อง ช่วงนี้ก็ได้เริ่มแต่งเพลงเอาไว้จำนวนหนึ่ง เพลงแรกที่ทั้งคู่ร่วมกันแต่งก็คือ”โรงหนังเก่า”
หลังจากตระเวนหามือกลองอยู่นานแสนนาน และแล้วงานลอยกระทงที่มหาลัยก็มาถึง ทั้งสองคนซึ่งเป็นแฟนเพลงวงโมเดิร์นดอก ก็ได้ตามมาดูคอนเสิร์ต ซึ่งจัดขึ้นที่คณะนิเทศน์ ก่อนวงจะเล่นก็มีวงเปิดของคณะมาเล่นประกอบ ต้าสังเกตเห็นมือกลองตีดีน่าสนใจ จึงทาบทามให้มาเล่นด้วย คนๆนั้นเป็นรุ่นพี่ปี 3 ชื่อ “พี่โน้ต”
ตั้งแต่นั้นก็ก่อตั้งวงดนตรี3ชิ้นชื่อ “หอยจ๊อ” โดยการรวมตัวกันของ ต้า สอง พี่โน้ตและเหล่าเพื่อนๆมาช่วยร้องนำ (ตอนนั้นต้าเล่นกีต้าร์อย่างเดียว) เล่นได้ประมาณ1ปีจึงเริ่มอยากทำเทปขายเพื่อนๆ จึงเข้าห้องอัด อัดเพลงเพื่อทำอัลบั้มกันเอง ตอนนั้นด้วยความที่ไม่มีใครเป็นนักร้องที่แท้จริง ทางวงจึงลงความเห็นว่า ให้ต้าทำหน้าที่นักร้องนำตั้งแต่นั้นมา
ต่อมาหอยจ๊อก็พบกับปัญหาที่นักดนตรีส่วนใหญ่เจอ คือ คุณภาพเสียงที่อัดมาแย่,ไม่มีทุน ประกอบกับมีรุ่นพี่ที่คณะแนะนำให้นำเพลงไปเสนอค่ายเทป ทำให้ทางวงจึงเดินเข้าไปเสนอDEMOกับค่าย EASTERNSKY REC. และโชคดีได้ร่วมงานกับค่ายตั้งแต่นั้นมา แต่เพราะความที่ชื่อหอยจ๊อ ฟังแล้วไม่น่าจะใช้ได้นาน ทางค่ายจึงแนะนำให้ลองหาชื่อใหม่ พอดีสองไปเปิดตำราเกี่ยวกับUFO พบศัพท์แปลกๆว่า ‘PARADOX’ ซึ่งแปลว่า วัตถุประหลาด.คำที่มีความหมายตรงกันข้ามกับความรู้สึก,อะไรที่ขัดแย้งในตัวเอง ซึ่งเหมาะกับนิสัยของสมาชิกในวง คือดูภายนอกเรียบร้อยแต่จริงๆสนุกสนาน โดยเฉพาะเวลาอยู่บนเวที และก็ได้คลอดอัลบั้มแรกในชื่อ PARADOX ชื่อชุด ‘LUNATIC PLANET’(ดวงดาวบ้าๆบวมๆ) โดยร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ พี่แก็ป ทีโบน เพลงเด่นๆได้แก่ “นักมายากล” “ไก่” “โรตีที่รัก” “เสือไบ”
*** อัลบั้มแรก Lunatic Planet ออกแบบปกโดยพี่ปุ้ยตีสิบ

ประวัติวงParadox (ต่อ)

ช่วงที่จะออกตระเวณทัวร์ พี่โน้ตได้แนะนำมือกีต้าร์อีกคนเพื่อมาเล่นสมทบให้วงแน่นขึ้น ชื่อ “บิ๊ก" หนุ่มผมยาวคณะนิติตั้งแต่นั้นมา บิ๊กก็กลายมาเป็นกำลังสำคัญของวงและมีบทบาทต่อเพลงต่างๆของPARADOX เรื่อยมา จนตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกคนหนึ่งในวงPARADOX อย่างเต็มตัว (รูป) หลังจากนั้นประมาณปี2539 EASTERNSKY ก็ยุบบริษัทลงไป วงจึงว่างเว้นจากการออกอัลบั้มไปประมาณ1ปี ช่วงนั้นต้ากับสองก็กำลังเรียนอยู่ปีสุดท้าย และพี่โน้ตแต่งงานและบินไปเรียนต่อด้านSound Engineer ที่U.S.A.
ช่วงที่เรียน ต้ากับสองก็ต้องทำงานจบ สองเกิดความคิดที่จะทำเทปเพลงของวงส่ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของงาน ทั้งสองคนจึงอัดเพลงแล้วหาที่ปั๊มเป็นเทปจริงเพื่อขายในงานประจำปีของคณะ โดยห้องอัดใช้คอมพิวเตอร์บ้านต้าอัด โดยใช้ชื่อชุดตามที่คนเรียกว่า “แมลงวันสเปน” ในสังกัดค่าย TATA Rec.(ตาต้าเร็คคอร์ด) เป็นชื่อที่ต้าตั้งค่ายเทปเล่นๆ ทำออกมา1,000 ตลับ

***เทปแมลง วันสเปน ของแท้ต้องพิมพ์ผิด เป็น"แมลงวันเสปน"

ในปีต่อมา(2541) คลอดอีกอัลบั้ม ชื่อ’PARADOX And My Friends’ เป็นอัลบั้มที่มีเพลงใหม่ของวงอยู่หน้าA ส่วนหน้าB เป็นเพลงของเพื่อนๆที่มาอัดเสียงที่บ้าน ช่วงนั้นพอดีป๋าเต็ด DJ คลื่นวิทยุแห่งหนึ่งบังเอิญได้นำเพลง ไปเปิดออกอากาศในรายการ และรู้สึกสนใจ จึงชักชวนให้PARADOX ลองมาเสนอDEMO กับค่ายจีนี่ดู แต่ในขณะนั้นสมาชิกวงเหลืออยู่แค่3คน คือ ต้า สอง บิ๊ก ช่วงนั้นก็ได้รุ่นน้องชื่อ “ดำ” มาช่วยตีกลองให้แทนพี่โน้ต และหลังจากคุยกับทางบริษัทจีนี่เครือแกรมมี่
ปลายปี2542ก็มีโอกาสได้ส่งเพลง1เพลงลงชิมลางร่วมกับวงอื่นๆในอัลบั้ม “INTRO2000” ส่งเพลง”ท่ามกลาง”ไปสู่คลื่นวิทยุ และได้รับการตอบรับที่ดี ในที่สุดก็ได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้ออกอัลบั้มเต็ม แต่ทางวงช่วงนั้นมีปัญหาขาดมือกลอง เนื่องจากพี่โน้ตยังอยู่ต่างประเทศ และเวลากระทันหันเกินไป ทางวงจึงดึงเอา “โจอี้” มือกลองญาติพี่น้องของต้าซึ่งเคยเล่นร่วมกันบ่อยๆ มารับหน้าที่กลองแทนพี่โน้ต ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดี อีกทั้งยังดึงเพื่อนสนิท”อ๊อฟ”จากวง’SUPERDEAD’ที่เคยเล่นตอนอยู่คณะมาช่วยร้องคอรัสและเติมเสียงดุๆเข้าไปในเพลงต่างๆ จนอัลบั้มเต็มชื่อ ‘SUMMER’ ก็ออกวางแผง เพลงโดดเด่นคือ “น้องเปิ้ล””LOVE” “ฤดูร้อน” “ร.ด.Dance”
ช่วงนี้ก็ได้ดึงเอาเพื่อนอีกคนคือ”เก่ง” หรือ”นัทธาก.” มาเสริมช่วยสร้างสีสันในการแสดงบนเวทีร่วมกับอ๊อฟ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น จนมีโอกาสได้ออกอัลบั้มพิเศษต่อมาคือ ‘ON The Beach’ อัลบัม ที่นำเพลง ในชุดsummer บางเพลงที่น่าสนใจมาเน้นเป็นแบบเบาๆเพิ่มความไพเราะยิ่งขึ้น โดยยิงเพลงเอกคือ”ดาว” ให้ลอยไปสู่คลื่นวิทยุต่างๆทั่วประเทศ
หลังจากนั้น ข่าวคราวของพวกเขาก็เงียบหายไปในกลีบเมฆเป็นเวลาเกือบสองปีที่ห่างหายไปจากวงการ แต่จริงแล้วพวกเขาซุ่มทำอัลบั้มต่อไปกันอย่างหนัก หลังจากที่ใช้เวลาเกือบ9เดือน อัลบั้มOn the rainbow ก็ถึงกำหนดคลอด ออกมาปลายปี2545 (02/10/45) เป็นอัลบั้มที่ใช้เวลาบันทึกเสียงยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของวง อัลบั้มนี้เป็นการเปลี่ยนมุมมองทางดนตรีที่ฉีกจากความเป็นparadoxพอสมควร
เป็นอัลบั้มที่เน้นลายละเอียดในตัวเพลง กับแนวความคิดว่าดนตรีคือสิ่งสวยงาม ดังนั้นดนตรีในอัลบั้มชุดนี้จึงดูละเอียดอ่อนและเน้นความเป็นธรรมชาติของเสียงดนตรีมากที่สุด
เป็นอัลบั้มที่ประณีตที่สุดในการทำงานของวงก็ว่าได้ แต่ผลการตลาดกลับตรงกันข้ามกับที่คาดคิดไว้ อัลบั้มนี้กลับไม่ประสบความสำเร็จทางยอดขายเท่าที่ควร อีกทั้งอัลบั้มชุดนี้มีงานคอนเสิร์ตน้อยมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเพลในอัลบั้มส่วนใหญ่เข้าใจยากพอสมควร และดนตรีอันบอบบางไม่สามารถเรียกความสนใจให้กับคนฟังส่วนใหญ่ได้
เพลงเด่นๆ ก็เช่น กลิ่นโรงพยาบาล เพลงสุดท้าย เศษ รุ้ง คู่ควร ไฟ ฯลฯ
แต่เทพีแห่งโชคก็ยังเห็นใจพวกเขา หลังจากอัลบั้มOn the rainbow วางแผงได้ไม่นาน วงParadox ก็ได้รับโอกาสสำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขา ก็คือการได้มีคอนเสิร์ตใหญ่
เป็นของตัวเองครั้งแรก ร่วมกับคลื่นวิทยุชื่อดัง 104.5 Fat radio นำโดยป๋าเต็ด ผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันวงของพวกเขามาก่อนหน้านี้
และคราวนี้ก็ได้ร่วมงานกันในงานคอนเสิร์ต Fat live ครั้งที่4 Paradox Circus จัดที่อินดอร์สเตเดี่ยมหัวหมาก ในขณะที่เตรียมโปรโมทงานทางวงก็ได้รับโอกาสที่เหมือนโชคชั้นที่สองก็คือ ได้มีโอกาสทำอัลบั้มใหม่ต่อเนี่องทันที
โดยใช้เพลงSexy เป็นเพลงโปรโมทงานครั้งนี้ ซึ่งคอนเสิร์ตก็เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่และจบลงอย่างสง่างาม
มีคนมาเข้าชมมากเกินคาด อีกทั้งในเวลาต่อมาก็คลอดอัลบั้มพิเศษบันทึกการแสดงสดParadox Circus ออกมาในรูปแบบต่างๆ และประสบความสำเร็จทางการตลาดเป็นอย่างดี ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงของวงอย่างมาก
จากวงอินดี้เล็กๆ ได้เติบโตขึ้น สยายปีกกลายเป็นวงที่ผู้คนเริ่มรู้จัก สื่อมวลชนให้ความสนใจมากขึ้นจนกลายเป็นวงดนตรี ที่น่าจับตามอง และก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ไปอีกขั้นหนึ่ง ประกอบกับการโหมทำอัลบั้มใหม่กันอย่างหนักและต่อเนื่องโดยไม่พักผ่อน อัลบั้ม Freestyle
ก็ออกตามมาเสริมกระแสความแรงอัดเข้าไปอีก ทำให้ผู้คนให้การยอมรับวงParadoxอย่างเต็มใจ อีกทั้งยังย้อนกลับไปให้ความสนใจติดตามหาผลงานเก่าๆที่ผ่านมาจนเกิดเป็นกระแสการเก็บสะสมซีดีหายากของทางวง ส่วนแนวเพลงในอัลบั้มนี้ถูกผสมซาวด์ดนตรีที่ค่อนข้างหนัก
แนวคิดหลักของอัลบั้มนี้คือความอิสระในการทำดนตรีที่หลากหลาย เน้นย้ำจุดยืนของวงให้ชัดเจนขึ้น บทเพลงในชุดนี้มีหลายแนว ไม่ว่าจะหนักสุดกับแนวเมทัลไปจนถึงแนวเบาเป็นป็อปบอยแบนด์หลุดไปถึงบอสซ่าที่บางเบา
ซึ่งผลงานในอัลบั้มนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพัฒนาการในเรื่องของซาวด์ดนตรีและความเป็นมืออาชีพในการบันทึกเสียงได้อย่างดี
และก็ตามคาด กระแสตอบรับกับอัลบั้มนี้ดีที่สุดในชีวิตการทำงานของพวกเขา เพลงเด่นก็เช่น Sexy ขอ ทาส บอลลูน ฯลฯ
มีงานคอนเสิร์ตเข้ามาตลอดทั้งปี ด้วยความแรงฉุดไม่อยู่ ในเวลาต่อมาค่ายจีนี่ต้นสังกัดก็ออกอัลบั้มรวมฮิต
Hit me ออกมาเป็นของสะสมให้กับแฟนเพลง
หลังจากนั้นไม่นานนัก พวกเขาก็ได้มีโอกาสร่วมงานกับวงร็อครุ่นเดียวกัน ออกอัลบั้มพร้อมคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้งในนามของ Little Rock Project โดยการนำเพลงเก่าของวงไมโครมาเรียบเรียงใหม่
ในแบบของตนเอง ซึ่งก็ได้ทำเพลงออกมา2เพลง คือ มันก็ยังงงๆ และ รักคุณเข้าแล้ว ได้รับผลดีพอสมควร ในโปรเจคนี้ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักของกลุ่มวัยรุ่นมัธยมมากขึ้นไปอีกเท่าตัว
ในขณะที่พวกเขาออกทัวร์ตลอดทั้งปี ก็มีโชคดีหล่นทับเข้ามาอีกครั้ง โดยพวกเขาได้รับโอกาสทองให้ทำเพลงประกอบภาพยนต์ วัยอลวล 4 ตั้มโอ๋รีเทิร์น โดยได้นำเพลง "เธอที่รัก"กลับมาทำใหม่
คราวนี้พวกเขาได้ผลข้างเคียงจากการโปรโมทภาพยนต์อย่างเต็มที่ นอกจากกลุ่มวัยรุ่นแล้ว ทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆต่างก็เริ่มรู้จักผลงานของพวกเขาบ้างไม่มากก็น้อยซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆจากโปรเจ็คอัลบั้มรวมเพลงจากภาพยนต์นี้ ทำให้ตลอดครึ่งปีต่อมาพวกเขามีทัวร์แทบทุกวัน

ประวัติวงParadox (จบ)

และจากการตระเวนทัวร์คอนเสิร์ตกันอย่างเมามันไปแล้วเป็นเวลาร่วม2ปี ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะเก็บตัวเพาะบ่มผลงานชุดใหม่ที่ถือว่าทิ้งระยะจากอัลบั้มเต็มFreestyleมานานมาจนเกือบจะนานเกินไปแล้ว พวกเขาจึงรวบรวมไอเดียและมันสมองสร้างสรรค์ผลงานชิ้นสำคัญกันต่อไป และในอัลบั้มนี้เป็นการรวบรวมเอาจุดเด่นของพวกเขาเองมาขยายความให้ชัดเจนขึ้นโดยการเน้นเพลงเร็วและความมันเป็นส่วนใหญ่อันเนื่องจากเพื่อใช้ในการแสดงคอนเสิร์ตนั่นเอง ซึ่งแนวคิดในอัลบั้มนี้ก็คือ "ความสุข สนุกสนาน" เมื่อใครก็ตามที่ได้ฟังเพลงอัลบั้มนี้ จะต้องเกิดความรู้สึกอารมณ์ดี มีความสุขจนอดที่จะอมยิ้ม อีกทั้งชุดต่อมาของ paradox ที่ใช้ชื่อว่า Paradox – x ที่คลอดออกมาในปี 2549 นั้นได้สร้างความแปลกใหม่ให้แก่แฟนเพลงของพวกเขาไม่น้อยเลยทีเดียว เริ่มจากการอัดเน้นคุณภาพของเพลงถึง 22 track ที่แทบจะไม่มีวงดนตรีวงไหนทำมาก่อน ซึ่งแบ่งออกเป็น track ทั่วไป 10 track และ bonus track อีก 12 track ซึ่งดนตรีในชุดนี้ก็ได้มีหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น pop , punk หรือกระทั่งแนว metal ด้วยเหตุนี้ Paradox – x จึงได้สร้างความจัดจ้านให้แก่วงการเพลงตลาดในบ้านเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ล่าสุด 4 หนุ่มสุดเพี้ยนแห่งวง พาราด็อกซ์ ยังไม่หมดมุข ส่งทีเด็ดต่อยอดความมันด้วยอัลบั้มพิเศษ "Paradox in Paradise" (พาราด็อกซ์ อิน พาราไดส์) ที่ตั้งใจทำมาเพื่อมอบให้แฟนๆ เพลง ที่รักไปแล้วและกำลังจะตกหลุมรักพวกเค้า
ด้วยความพิเศษของอัลบั้มที่นอกจากจะนำเพลงเก่าจาก 3 อัลบั้ม ทั้ง "On the Rainbow" (ออน เดอะ เรนโบว์) "Free Style" (ฟรี สไตล์) และอัลบั้มล่าสุด "X [10 Year After]" มาทำใหม่ในแบบอะคูสติกเน้นความไพเราะและอารมณ์หวาน แค่ได้ฟังก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหาดทราย สายลม กำลังมีความสุขอยู่บนสวรรค์ไปพร้อมๆ กับพวกเค้า ยังมีอีกหนึ่งเพลงใหม่ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ "ใครสักคน" ที่มีให้ฟังอย่างจุใจถึง 2 แบบ มีทั้งแบบต้นฉบับและแบบอะแคปเปลล่า (ไม่ใช้เครื่องดนตรี) ที่งานนี้ 4 หนุ่ม พาราด็อกซ์ ขอออกลีลาเต้นเป็นครั้งแรกแบบไม่ยอมน้อยหน้าอีกด้วย ซึ่งนาย ต้าร์ ได้เผยถึงที่มาของอัลบั้มพิเศษนี้ว่า
"ที่มาของโปรเจกต์นี้ เรามีการคุยกันในวงว่าเราเคยมีอารมณ์อัลบั้มแบบ Paradox on the Beach (พาราด็อกซ์ ออน เดอะ บีช) มาแล้วด้วยระยะเวลาและบรรยากาศในช่วงนี้ทีมีหลายๆ เทศกาลก็เลยผุดไอเดีย Paradox in Paradise มาเป็นอัลบั้มที่ฟังสบายๆ เน้นไปทางอะคูสติก อย่างเพลงมันๆ เช่น ผงาดง้ำค้ำโลก ที่หลายๆ คนอาจจะฟังไม่ทันเพราะร้องค่อนข้างเร็ว เราก็นำมาปรับให้ช้าลง ร้องให้ชัดถ้อยชัดคำและร้องนุ่มขึ้น
ส่วนเพลง ใครสักคน เป็นเพลงใหม่ล่าสุด ที่ตั้งใจทำมาในช่วงของเทศกาลแห่งความรัก เพราะความหมายของเพลงจะเกี่ยวกับการโหยหาใครสักคน เป็นเพลงรักโรแมนติกที่นานนานจะได้ยินได้ฟังจากวงพาราด็อกซ์ ก็อยากให้ลองฟังกัน และอยากให้ติดตามชมมิวสิกวิดีโอ เพลงใครสักคน เพลงนี้ยังได้มือกลองสุดหล่อแห่งวง พาราด็อกซ์ คุณโจอี้ มารับบทพระเอกมิวสิกวิดีโอ เพลงนี้พวกเรายังฉีกแนวออกมาเต้นด้วย ยังไงก็ขอฝากอัลบั้ม Paradox in Paradise ไว้ด้วยนะครับ" Paradox In Pardise ฟังแค่ชื่อคงไม่ต้องอธิบายใดๆ ให้มากความว่าอัลบั้มพิเศษชุดนี้มาพร้อมกับดนตรีที่นำมาทำเป็นอะคูสติกที่น่าสบายหู แต่ในขณะเดียวกันความสบายของบทเพลงก็ทำให้หลายคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น หลายคนคุ้นเคยกับสำเนียงกีตาร์มันส์ๆ ในเพลง นักมายากล ที่เคยกระชากอารมณ์มันส์สะใจ แต่คราวนี้พาราดอกซ์นำมาทำให้ร่วมสมัยและใส่ลูกเล่นแบบดนตรีคาราวานลงไปผสม รวมถึงอีกหนึ่งเพลงพิเศษที่แต่งขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะอย่าง "ใครสักคน" ที่กำลังชวนให้ใครต่อใครถามหา เพราะนอกจากความพิเศษตรงที่เป็นเพลงใหม่แล้ว ยังมีให้ฟังกันจุใจถึง 2 เวอร์ชั่น ทั้งเวอร์ชั่นปกติและอะแคพเพลล่า และคาดว่าเร็วๆ นี้ มิวสิควิดีโอที่โก้เก๋สุดๆ เพลงนี้ ก็จะทำให้ใครหลายคนได้เซอร์ไพรส์กับทีเด็ดที่ไม่เคยปล่อยให้หายไปแม้แต่ชุดเดียวสำหรับพาราดอกซ์

วัตถุประสงค์

รายชื่อเพลงในชุด Paradox In Pardise
1. ใครสักคน
2. มองตา
3. ผงาดง้ำค้ำโลก
4. นักมายากล
5. ขอ
6. ทะเลแสนหวาน
7. เพลงสุดท้าย
8. Sed : เศษ
9. ส่งรักส่งยิ้ม
10. ก็มีแค่นั้น
11. กลิ่นโรงพยาบาล
12. เงา
13. ใครสักคน (acappella)



วัตถุประสงค์
1. เพื่อนำเสนอกระบวนการออกแบบสื่อประชาสัมพัธ์ ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ (โปสเตอร์) วงพาราด๊อกซ์ อัลบัม Paradox In Pardise
2. เพื่อผลิตต้นแบบเหมือนจริง (Prototype) ของสื่อประชาสัมพัธ์ ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ (โปสเตอร์) วงพาราด๊อกซ์ อัลบัม Paradox In Pardise

สมมุติฐาน/แรงบันดาลใจ

สมมุติฐาน/แรงบันดาลใจ
จากข้อมูลที่ได้กล่าวมาข้างต้น ผู้ศึกษาได้มีความหลงใหลในวงดนตรีที่ชื่อ Paradox จึงเกิดความคิดที่อยากจะประชาสัมพันธ์ให้กับวง Paradox และได้เลือกสื่อประชาสัมพันธ์ประเภท สื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งรูปแบบของสิ่งพิมพ์นั้นจะแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์ที่ไม่ได้เย็บเล่ม เช่น แผ่นปลิว แผ่นพับ โปสเตอร์ จดหมายข่าว เป็นต้น หรือที่เย็บเป็นเล่ม เช่น วารสาร เอกสารเผยแพร่ หนังสือในโอกาสพิเศษ รายงานประจำปี เป็นต้น
และผู้ศึกษาได้เลือกใช้ สื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบของ โปสเตอร์ เพราะผู้ศึกษาได้เห็นว่า โปสเตอร์ เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมในด้านสื่อประชาสัมพันธ์ให้แก่วงดนตรีมาโดยตลอด


แหล่งศึกษาข้อมูล
- www.tatamag.com
- www.google.co.th

โปสเตอร์ที่ออกแบบมา

รูปแรก ให้ความรู้สึกล่องลอยไปบนท้องฟ้า
รุปที่สอง แสดงถึงความหวาน เข้ากับconceptอัลบัมชุดนี้
รูปที่สาม แสดงถึงความขัดแย้งกันในตนเองระหว่างโปสเตอร์อัลบัมชุดใหม่กับconceptอัลบัมชุดใหม่
(paradox แปลว่า สิ่งที่ขัดแย้งกันในตัวเอง)